ข้อความด้านบนเป็นจริง เพราะท่ากบเป็นท่าธรรมชาติของมนุษย์คือใช้มือพุ้ยน้ำและใช้เท้าถีบไปเรื่อย ๆ แต่ในการแข่งขันแล้ว
ท่ากบใช้เทคนิคสูงเพราะการว่ายไม่เหมือนกับการว่ายเล่นธรรมดา และต้องใช้พรสวรรค์สูงเพราะเป็นท่าที่นักกีฬา ต้องมีกล้ามเนื้อ ที่เรียวยาว ข้อหัวเข่ายืดหยุ่นได้สูง ดังนั้นจึงไม่ง่ายเลยที่จะหาคนที่เหมาะสมกับการว่ายแบบนี้จริง ๆ และที่บอกว่าใช้เทคนิคสูง
ขั้นตอนในการใช้ขาของท่ากบ มีดังนี้
1. ให้รวบขาชิดกันเท้าชิดกันเอาไว้ ยืดขาให้ยาว
2. งอเข่า ดึงส้นเท้ามาหาสะโพก ข้อสำคัญคุณต้องไม่ชักเข่าเข้าใต้ลำตัวของคุณ โดยการงอเข่านั้นคุณต้องแยกขาเล็กน้อยแต่คุณต้องบังคับให้เข่าและเท้ายังอยู่ในช่วงกว้างของสะโพก
3. เมื่อเท้าชิดสะโพกแล้วให้หมุนเท้าโดยให้นิ้วเท้าชี้ไปด้านข้าง ฝ่าเท้าอยู่ในท่าที่เตรียมจะถีบน้ำ
4. ถีบน้ำไปด้านหลังอย่างรวดเร็ว
5. หลังจากนั้นให้คุณรวบขาและเท้าทั้งสองข้างให้ชิดกันอย่างรวดเร็ว เตรียมพร้อมที่จะถีบใหม่อีกครั้ง
ข้อควรจำ
1. คุณต้องไม่มีอาการเกร็งข้อเท้าเลย ในขณะที่ถีบน้ำ
2. ในการรวบเท้า คุณต้องตบฝ่าเท้าของคุณเข้าหากันอย่างรวดเร็วที่สุด
3. เวลาถีบขาอย่ากระชากหัวเข่า เพราะจะทำให้คุณรวบขาได้ช้า และอาจบาดเจ็บได้
ความสัมพันธ์ของร่างกายในท่ากบ (Breaststroke Relative Action)
ในการว่ายท่ากบนั้น จังหวะเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะท่ากบต้องอาศัยความสัมพันธ์ของแขนกับขาเพื่อให้เกิดความลู่น้ำและความเร็วมากที่สุด ถ้าคุณว่ายผิดจังหวะแล้ว คุณจะไปได้ช้าและเหนื่อยกว่าปกติ ดังนั้น การว่ายท่ากบจึงต้องอาศัยการฝึกฝนและเทคนิคสักหน่อย แต่คุณก็ทำได้โดยอย่างนี้
ขั้นตอนต่าง ๆ ในการว่ายท่ากบ มีดังนี้
1. ให้คุณยืดแขนและขาเอาไว้ วางลำตัวเหมือนกับท่าฟรีสไตล์
2. ให้กวาดมือออกด้านข้างเล็กน้อย
4. เมื่อกวาดมือแล้ว ให้กดมือลง พร้อมกับรวบแขนไปด้านหลังเล็กน้อย
5. ให้รวบแขนและศอกมาชิดข้างลำตัว ให้ตวัดเข้ามาอย่างรวดเร็ว และให้มืออยู่บริเวณหน้าอก
6. เมื่อยืดแขนออกไป ให้งอเข่าตามมา และเมื่อแขนยืดเสร็จแล้ว ขาจะต้องอยู่ในสภาพที่พร้อมจะถีบน้ำ เมื่อถีบน้ำและรวบขาชิดกันแล้วก็จะกลับเข้าสู่กระบวนการในภาพที่ 1 ใหม่ โดยให้คุณยืดตัวไว้ประมาณ 1 - 2 วินาทีก่อน แล้วค่อยเริ่มต้นใหม่
TIP OF BREASTSTROKE
ตามที่ตอนต้นบอกไว้ว่า มีเทคนิคพิเศษโดยสำหรับผู้ที่ว่ายผีเสื้อได้แล้วก็จะทราบ นั่นก็คือ การใส่เอวผีเสื้อเข้าไปในท่ากบด้วย โดยเมื่อคุณถีบขาให้ยืดแขนออกไป แล้วใช้สะโพกดันตัวไปข้างหน้าด้วย และคุณจะต้องก้มศีรษะตอนที่ยืดแขนออก ต่อมาให้เชิดคางขึ้นในจังหวะที่ใช้แขน จังหวะต่อจากรูปที่ 10 คือจังหวะที่คุณสามารถใส่เอวผีเสื้อเข้าไปได้ แต่ต้องระวังส่วนหนึ่ง คือ ศีรษะของคุณอาจจะต่ำเกินไป ทำให้ลงน้ำลึก ก็ควรจะแก้ไขโดยการยืดตัวและใส่เอวผีเสื้อ บริเวณผิวน้ำให้ได้
การ เตะขาโดยใช้ kickboard ถือว่าเป็นท่าพื้นฐานที่สุด นักกีฬาส่วนมากมักจับที่ปลาย kickboard ด้านบน โดยยกศีรษะมองไปด้านหน้า โฟมช่วยพยุงส่วนบนของร่างกายไว้ บางคนต้องการให้ลำตัวส่วนบนลอยมากขึ้น ใช้ kickboard เพิ่มขึ้นมาอีก 1 อัน
ท่าว่ายน้ำที่ถูกต้อง ตำแหน่งศีรษะควรอยู่ในแนวเดียวกับกระดูกสันหลัง เกาะโฟมเตะขาตามองไปด้านหน้า จัดเป็นท่าที่ต่างจากท่าว่ายน้ำที่ถูกต้อง นักกีฬาควรจับ kickboard ตรงกลางของทั้งสองข้าง ก้มหน้าลง ตามองที่พื้น เมื่อต้องการหายใจให้เงยหน้าขึ้น
การจับ kickboard เตะขาใช้ได้ 3 ท่าคือ ผีเสื้อ กบ และฟรีสไตล์ กบเป็นท่าเดียวที่นักกีฬาควรขึ้นมาหายใจทุกจังหวะ จังหวะหายใจเป็นจังหวะพร้อมกับการลากส้นเท้าเข้าหาก้นก่อนถีบ จังหวะถีบขาให้ก้มหน้าลง ตามองพื้น
ระหว่างจับโฟมเตะขาท่าผีเสื้อและฟรี สไตล์ นักกีฬาสามารถฝึกกลั้นหายใจไปพร้อมกัน โดยการเตะขา ก้มหน้าลงใต้น้ำ และพยายามหายใจให้น้อยที่สุด จากขอบสระถึงขอบสระอีกฝั่ง การเตะขาท่าผีเสื้อ นักกีฬาควรสลับระหว่างฝึกกลั้นหายใจกับหายใจทุก 1 หรือ 2 จังหวะ เพราะนักกีฬาส่วนมากเวลาว่ายท่าผีเสื้อจะหายใจทุก 1 หรือ 2 จังหวะ จึงควรฝึกให้เหมือนกับเวลาว่าย
กรรเชียงเป็นท่าเดียวที่นักกีฬาไม่ควรใช้ โฟมเวลาฝึกเตะขา การหนุนศีรษะลงไปบนโฟม แขน ลอดใต้โฟม มือจับที่ปลายส่วนบน ดูเหมือนกับท่านอนเล่นแช่น้ำมากกว่าฝึกเตะขา ควรใช้วิธีแขนเหยียดตรงชิดหูจะดีกว่า นักกีฬาสามารถเตะขาได้โดยลำตัวอยู่ในแนวนอนคล้ายกับท่าว่ายกรรเชียงมากที่ สุด และนักกีฬายังจะได้ฝึกเตะขาใต้น้ำอีกด้วย เพราะถ้าจับโฟมนักกีฬาไม่สามารถดำลงใต้น้ำ ผีเสื้อและกรรเชียงเป็นท่าว่ายน้ำที่นักกีฬาควรให้ความสนใจกับการฝึกเตะขาใต้น้ำเป็นพิเศษ
No comments:
Post a Comment